ทำอย่างไรจึงสามารถดำน้ำกับเรือ Liveaboard ได้

293

การดำน้ำกับเรือ Liveaboard ผู้เขียนคิดว่ามัน คือปลายทางของการเรียนดำน้ำ เพราะการจะไปดำน้ำในลักษณะออกทริปดำน้ำหลายๆวัน แบบนี้ทุกท่านจะต้องผ่านเรียนดำน้ำคอร์สต่างๆ มาก่อนอย่างน้อยๆก็ควรจะเป็น ระดับ Open Water เมื่อมีบัตรดำน้ำ แล้ว จะไปดำน้ำที่ไหนก็ได้แล้ว แต่ก็อยู่ที่ ว่า จุดดำน้ำที่ดำได้จะมีความยากความง่ายมากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นหากเรามีการเริ่มต้นการเรียนดำน้ำที่ดีแล้ว รู้สึกสนุกไปกับการดำน้ำ การที่จะหาประสบการณ์เพิ่มเติม การดำน้ำกับเรือ Liveaboard ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้นักดำน้ำหลายๆท่านติดใจ เพราะได้อยู่กับท้องทะเลอยู่กับธรรมชาติทิ้งเรื่องงานไว้บนฝั่ง ได้เจอเพื่อนใหม่ๆในทริป ที่ต่างคนต่างมารู้จักกันบนเรือ มีหลากหลายอาชีพที่จะมานั่งแชร์ประสบการณ์ ที่ต่างคนต่างไปเจอกันมา นั่งเม้าท์มอยกันบนเรือ รับประทานอาหารร่วมกัน ดำน้ำแล้วก็นอน หรือเรียกว่าเป็นการพักผ่อนอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ แต่เมื่อท่านได้ไปสัมผัสแล้ว มันจะเป็นการพักผ่อนหรือเปล่าน้า ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองซื้อทริปไปดำน้ำกับเรือ Liveaboard แล้วแหละ

ก่อนอื่นเลย ก็ต้องรู้ก่อนว่าทริปดำน้ำ Liveaboard คืออะไร ?

ก็คือทริปดำน้ำที่ออกไปใช้ชีวิตนอนค้างคืนบนเรือ ที่มีห้องนอนหลายห้องกับเรือที่มี่ขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก กลางทะเลเป็นระยะเวลาหนึ่ง มีตั้งแต่ 2 วัน 1 คืน 4วัน 3 คืน จนไปถึง 5 วัน 4 คืนเลยทีเดียวขึ้นอยู่กับทริปและสถานที่ที่ไปดำน้ำ แตกต่างกับ Daytrip ที่ไปเพียงดำน้ำหนึ่งวัน เช้า-เย็น กลับซึ่งตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่บนเรือนั้นก็จะมีกิจกรรมดำน้ำทุกวันตามตารางที่ได้วางแผนไว้ โดยบนเรือก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน ไว้ครบครันที่เหมือนเป็นโรงแรมเคลื่อนที่บนผิวน้ำ มีตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนสันทนาการ ยารักษาโรค ฯลฯ

ระดับประสบการณ์ที่เหมาะสมหากไปดำน้ำกับเรือ Liveaboard

หลายๆท่านคงมีข้อสงสัยและถามกันเข้ามาเยอะ เกี่ยวกับระดับการดำน้ำว่าถือบัตร open water สามารถไปดำได้ไหม ผมก็คงให้คำตอบว่าได้ ครับ แต่จะลงได้ความลึกไม่เกิน 18 เมตร อย่างน้อยๆก็ควรดำน้ำกันมาสักระยะหนึ่งแล้วควรมีอย่างน้อย30ไดฟ์ ก่อนไปทริปและควรที่จะเป็นระดับ Advanced adventurer ก่อนจะทำให้ท่านสามารถดำน้ำได้สนุกยิ่งขึ้น เนื่องจากบริเวณที่ไปดำน้ำหรือจุดดำน้ำ จะค่อนข้างมีความยากในเรื่องของกระแสน้ำ ความลึกของจุดดำน้ำ ไฮไลต์ต่างๆอาจจะอยู่ที่ความลึก 25-30 เมตร บางสถานที่ ที่มีปะการังอ่อนสวยๆฟูๆกระแสน้ำก็จะค่อนข้างแรงหรือจุดที่เป็นร่องน้ำและเรือ Liveaboard ส่วนมาก จะมีการดำน้ำ แบบ Night Diving ด้วย ทำให้ ระดับ Advanced Adventurer จึงมีความเหมาะสมที่สุดหากเลือกที่จะไปดำน้ำในลักษณะนี้

ค่าทริปเท่าไหร่

คงจะเป็นหัวข้อแรกๆที่ควรจะตอบคำถามใช่ไหมครับ ค่าทริปดำน้ำเรือ Liveaboard จะมีราคาที่ค่อนข้างหลากหลาย เพราะรูปแบบของเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกของเรือแต่ละลำค่อนข้างมีความแตกต่างกัน จะมีตั้งแต่ เรือระดับเล็กจนไปถึงระดับใหญ่หรูไฮโซ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 9000 จนไปถึง 60,000 บาท ผู้เขียนจะขอแบ่ง เป็น 3 ระดับ ก็คือ เรือระดับเล็กระดับกลางและระดับสูง

  • เรือระดับเล็กจะอยู่ที่ ราคา 9000-18,500 บาท
  • เรือระดับกลางราคาจะอยู่ที่ 22,000-29,000บาท
  • เรือระดับสูงจะอยู่ที่ราคา 35,000-60,000 บาท

มาดูตัวอย่างเรือกันเลย

เรียงระดับที่เป็นไปตามรูป รูปที่ 1 คือเรือระดับเล็ก รูปที่ 2 คือเรือระดับกลาง รูปที่ 3 คือเรือระดับสูง

Liveaboard มีที่ไหนบ้าง

ขอเรียบเรียงจากในไทยก่อนนะครับ ที่สวยๆใสๆก็จะเป็นอันดามันเหนือ,อันดามันใต้,หลีเป๊ะ,ภูเก็ต เกาะโลซิน,ชุมพร-เกาะเต่า,ระยอง-เกาะช้าง อยากไปโซนไหน เรือแบบไหน ติดต่อ Eden Dive ได้เลยนะครับ ต่างประเทศ โคโมโด,บาหลี,ราชาอัมพัต,เรดซี,ฟิลิปปิน,มัลดีฟ ฯลฯ

อันดามันเหนือ มีอะไร 

จุดดำน้ำ หมู่เกาะสิมิลัน,เกาะบอน,เกาะตาชัย,กองหินริเชริว,หมู่เกาะสุรินทร์ น้ำใสถ้าหากมีการเลือกวันไปที่เหมาะสม ส่วนมากจะอยู่ที่ แรม 7,8,9 หรือว่าช่วงฮาฟมูน ตะกอนแพลงก์ตอนจะตกลงสู่ท่องทะเล จะทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้ำใสที่สุด แต่ข้อเสีย คือโอกาสในการพบเจอสัตว์ใหญ่จะน้อยลง เนื่องจาก ฉลามวาฬ,กระเบนราหู จะกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร แต่ถ้าโชคดีพวกเขาก็จะแวะเวียนกันมา ในจุด Cleaning Station ตามจุดดำน้ำก็ได้
สิ่งที่น่าสนใจ
กัลปังหาขนาดใหญ่,ฝูงปลา,ปลากระเบนราหู,ฉลามวาฬ,ฉลามเสือดาว,กุ้งตัวตลก ปลาไหลมอเลย์สายรุ้ง,ปลาฉลามปากเลื่อยที่เกาะบอน
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ตุลาคม จนถึง พฤษภาคม
  • ความลึก 5-40 เมตร
  • ทัศนวิสัยใต้น้ำ 10-30 เมตร

อันดามันใต้ มีอะไร 

จุดดำน้ำ เกาะห้า,หินม่วง,หินแดง,เกาะรอก,หินขาว,อาดังราวี เป็นทะเลกว้างใหญ่ไล่ตั้งแต่ภูเก็ตลงไปฝั่งใต้ของจังหวัดกระบี่ ตรัง จนไปถึงสตูล มีปะการังอ่อนเยอะมากๆแน่นอนว่ากระแสของน้ำจะค่อนข้างแรงกว่าสถานที่อื่นๆด้วยเช่นกันไฮไลค์จะเป็นหินม่วงและหินแดงจะเป็นลักษณะกองหินขนาดใหญ่ห่อหุ้มไปด้วยปะการังอ่อนจำนวนมากที่มีม่วงเช่นเดียวกันหินแดงมีปะการังอ่อนสีแดงเป็นจำนวนมาก
สิ่งที่น่าสนใจ
ปะการังอ่อน,ฝูงปลาสาก,กระเบนราหู,ทากทะเลปลาปักเป้ากล่องสีเหลืองและปลากบ ปลาเลเซอร์ฟิต,ฝูงปลาข้างเหลือง
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ตุลาคม จนถึง พฤษภาคม
  • ความลึก 5-60 เมตร
  • ทัศนะวิสัยใต้น้ำ 10-20 เมตร

หลีเป๊ะ มีอะไร

  เกาะสุดท้ายก่อนจะผ่านพรมแดนไทยเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย เป็นจุดดำน้ำที่ผู้เขียนคิดว่าสวยที่สุดในประเทศไทยแล้วก็ว่าได้เนื่องจากมีปะการังอ่อนฟูเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็เป็นคนที่หลงรักปะการังอ่อนเป็นที่สุดมองเห็นแบบไกลสุดลูกหูลูกตาและก็ต้องแลกมาด้วยกระแสของน้ำที่ค่อนข้างแรงมากอยากให้คนที่ไประมัดระวังเรื่องนี้อยากให้มีประสบการณ์การดำน้ำมาสักระดับหนึ่งก่อน หรือถ่วงก้อนน้ำหนักไปเยอะๆก็ได้เวลาเจอกระแสน้ำจะได้ไม่ปลิวไม่ลอย  ไฮไลต์ของหลีเป๊ะ จะเป็น สโตนเฮด และกองหินแปดไมล์
สิ่งที่น่าสนใจ
นุดดี้ปิกกาจูและทากทะเลที่ค่อนข้างจะหลายชนิด,ปะการังอ่อนเยอะมาก,ฉลามวาฬ
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ตุลาคม จนถึง พฤษภาคม
  • ความลึก 5-60 เมตร
  • ทัศนะวิสัยใต้น้ำ 10-20 เมตร

ภูเก็ต มีอะไร 

จุดดำน้ำที่สามารถดำได้ทั้งปีและใสตลอดปี จะอยู่ที่เกาะราชาน้อยราชาใหญ่ มีไฮไลต์เป็นฉลามเสือดาวที่อยู่ตรงจุด shark point  ตรงนั้นไม่ไปไหนไปกี่ครั้งๆก็จะเจอนอนอยู่ที่ความลึก 18-22 เมตร  หรือที่เรียกอีกอย่างนึงว่าหินมูสังข์  มีไฮไลต์ของเกาะดอกไม้ที่มีเจ้าทากทะเลไข่เจียวเป็นจำนวนเยอะมาก และเกาะพีพี ปิดะใน ปิดะนอกที่มีเจ้าฉลามครีมดำวนเวียนอยู่เป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้ยังมีเรืองจมคิงครุยส์เซอร์เรือจมเกล็ดแก้วอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ
ฉลามครีมดำ,ฉลามเสือดาว,ฉลามวาฬ,กระเบนราหู ทากทะเลหลากหลายสายพันธุ์
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
  • ความลึก 10-40 เมตร
  • ทัศนะวิสัยใต้น้ำ 10-40 เมตร

โลซิน มีอะไร

เป็นจุดดำน้ำบริเวณทางใต้ของประเทศไทย ขึ้นเรือจากจังหวัดสงขลาเป็นต้นไป มีลักษณะเป็นกองหินโผล่พ้นน้ำที่มีขนาดใหญ่ และเป็นเส้นทางเดินเรือขนสินค้าจึงได้มีการสร้างประภาคารตั้งไว้ ลักษณะใต้น้ำจะเป็นทุ่งเขากวางกว้างใหญ่ มีปะการังแข็งมากมายที่มีความอุดมสมบูรณ์ ความลึกสูงสุด 40 เมตร และเนื่องจากโลซินตั้งอยู่ห่างไกลจากฝั่งค่อนข้างมากทัศนะวิสัยใต้น้ำจึงใสกว่าปกติ ถัดจากโลซินลงใต้ไปทางฝั่งของจังหวัดนราธิวาส จะมีปะการังเทียมเป็นตู้รถไฟและรถถังอยู่ที่เป็นไฮไลต์ของโลซิน
สิ่งที่น่าสนใจ
ฉลามวาฬ,กระเบนราหู,กระเบนนก,ฝูงปลาหูช้าง,ฝูงปลากระมง,โรนัน,เต่าตะนุ
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวพฤษภาคม ถึง กันยายน
  • ความลึก 10-30 เมตร
  • ทัศนะวิสัยใต้น้ำ 10-20 เมตร

ชุมพรเกาะเต่า มีอะไร

จุดเริ่มต้นของใครหลายๆคนมักจะเกิดขึ้นที่เกาะเต่าประเทศไทย เนื่องจากมีความห่างไกลออกจากฝั่งทำให้มีจุดดำน้ำรอบๆเกาะเยอะมาก และสามารถดำได้ง่ายและดำน้ำได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นเดือนพฤศจิกายนเนื่องจากลมมรสุมค่อนข้างมาก เป็นแหล่งอนุบาลนักดำน้ำ ที่สามารถฝึกได้ตั้งแต่คอร์สเริ่มต้นจนไปถึงระดับสูง หากไปช่วงไหนที่เกาะเต่าน้ำใส แล้วคุณจะหลงรักการดำน้ำขึ้นมาทันทีเพราะจะใสและเคลียร์มาก จุดดำน้ำที่เป็นเรือจมก็มีหลายลำ ในส่วนของจังหวัดชุมพร จะเป็นง่ามน้อยง่ามใหญ่กองหินสามเหลี่ยม หรือร้านเป็ดร้านไก่จะมีระบบนิเวศที่แตกต่างไป จากโซนอื่นๆ อยากให้นักดำน้ำหลายๆท่านได้ไปลองกันครับ
สิ่งที่น่าสนใจ
ฉลามครีมดำ,ฉลามวาฬ,เรือจม,ทากทะเล
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ยกเว้นเดือน พฤศจิกายน
  • ความลึก 10-40 เมตร
  • ทัศนะวิสัยใต้น้ำ 10-40 เมตร

ระยองเกาะช้างมีอะไร

จุดดำน้ำที่เป็นไฮไลต์ของจังหวัดระยองที่มีชื่อเสียงจะเป็นหินเพิงตะวันตกและตะวันออก จะมีปลากบเหลือง และปลาไม้จิ้มฟันจระเข้เป็นสิ่งนักดำน้ำหลายคนต้องไปดู หินเพิงจะอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทาง โดยปกติแล้วจะเริ่ม ไดฟ์แรกที่เกาะมันในและมันนอกก่อนที่นั้นจะมีม้าน้ำอยู่ตามพื้นทราย และไปต่อไดฟ์ 2-3 กันที่หินเพิงถ้าโชคดีวันนั้นอาจจะมีฉลามวาฬเข้ามาแวะเวียนแถวๆยอดกองวนเวียนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน เมื่อปีที่แล้ว(2022) ฉลามวาฬเข้าบ่อยมากๆ จึงเป็นจุดเชิญชวนให้นักดำน้ำหลายคนอยากไป  ลักษณะของจุดดำน้ำจะเป็นกองหินที่มีดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอานม้าที่ค่อนข้างเยอะ ในส่วนของเกาะช้างจะมีไฮไลต์เป็นเรือจมช้างที่มีขนาดใหญ่และเป็นหนึ่งในบรรดาเรือจมที่ผมคิดว่าสวยที่สุดในไทยแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจ
ฉลามวาฬ,เรือจม,ทากทะเล,ปลากบ
  • ฤดูกาลท่องเที่ยวตุลาคมจนถึงมีนาคม
  • ความลึก 10-40 เมตร
  • ทัศนะวิสัยใต้น้ำ 10-40 เมตร

หากเรารู้แล้วว่าแต่ละสถานที่ดำน้ำ มีไฮไลต์อะไรบ้าง แล้ว แต่ละจุดแต่ละที่แต่ละโซนก็จะมีเรือดำน้ำ แบบ liveaboard ในทุกๆ โซน ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีเรือที่แตกต่างกัน ไป มีเรือลำไหนกันบ้างน้า เดี๋ยวผมมายกตัวอย่างให้ดูนะครับแบบคร่าวๆ หากอยากไปเรือไหน โซนไหน ติดต่อกับ EDEN DIVE CENTER ได้เลย

ลำที่ 1 เรือ อิสระ

ลำที่ 2 เรือฟ้าใส

ลำที่ 3 เรือ Aruna

ลำที่ 4 เรือ กฤษณ์

ลำที่ 5 เรือลัคกี้

ลำที่ 6 เรือเจ้าหญิงน้อย

ลำที่ 7 เรือ Summer

ลำที่ 8 เรือ Aquarain

ลำที่ 9 เรือ January princess

Previous article8 ขั้นตอนของการตรวจสอบและการดูแลรักษาและ Service Regulator กับร้าน EDEN DIVE CENTER
Next articleANILAO Philippines